Category: novelist
ขอถามความในใจ ริคิว (2)
ในที่สุดจากพลทหารคนโปรดของ โอะดะ ซึ่งก็คือ ฮิเดะโยะชิในสมัยนั้น เขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ดะอิเมียว ปกครองประเทศญี่ปุ่น ในเรื่องที่จะเขียนให้อ่าน ตัวละคร คือ ริคิว เขาเป็นพระและเป็นเจ้าพ่อที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในพิธีชงชาญี่ปุ่น ตั้งแต่สมัย โอะดะ จนถึง สมัยฮิเดะโยะชิผู้เป็นใหญ่ปกครองแผ่นดินญี่ปุ่น แต่จากการที่พระริคิว เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังในพิธีชงชา ยิ่งวันพระริคิว ก็ยิ่งมีชื่อเสียง เป็นที่นับหน้าถือตาของประชาชนแต่ด้วยรสนิยมที่ชอบอะไรฉูดฉาดจากความไม่มีสกุลรุนชาติและความไม่มีสุนทรียภาพของฮิเดะโยะชิ ทำให้พระริคิว และฮิเดะโยะชิ ไม่ลงรอยกัน ยิ่งวันพระริคิว กลับเป็นบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถืออย่างมาก พระริคิวมีอิทธิพลต่อความคิดของคนทั่วไปในสมัยนั้นอย่างมาก ผลที่จากความโด่งดังของพระริคิวและมีชื่อเสียงของพระริคิว ไปบดบังรัศมี ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ […]
กวีชื่อดัง มะทซึโอะ บะโช 芭蕉松尾 (จบ
จากบทกวีนี้ เราคงจะเห็นได้ว่า เขามีความสัมพันธ์ทางด้านจิตใจที่แน่นแฟ้น ตลอดจนความรู้สึกร่วมกับต้นกล้วยซึ่งปลูกไว้หน้ากระท่อมของเขา คงเป็นเสมือนเพื่อนคนเดียวของเขาในคืนฝนตก คนที่ไปมาหาสู่เขา ส่วนใหญ่คงจะมองเห็นต้นกล้วย เพราะปลูกสูงโด่เด่อยู่หน้ากระท่อม คนที่ไปมาหาสู่เขาคงมองว่า ต้นกล้วยนั้นก็คงเป็นเพียงต้นกล้วยธรรมดาต้นหนึ่งเท่านั้น บางคนอาจจะเห็นความผูกพันที่เขามีต่อต้นกล้วยที่ปลูกหน้ากระท่อมของเขาว่าคงไม่ใช่ต้นกล้วยธรรมดา หลังจากที่เขาย้ายเข้าไปอยู่ในกระท่อมหลังนั้น คนที่ไปมาหาสู่บะโช จะเรียกว่า ‘กระท่อม’แต่พอเห็นว่าบะโชมีความผูกพัน และรักต้นกล้วยต้นนั้นอย่างมาก คนที่ไปมาหาสู่ก็เลยตั้งชื่อกระท่อมหรือบ้านพักของเขา เวลาที่พูดถึงกระท่อมของเขาว่า บะโช 芭蕉ばしょう หรือ ‘ต้นกล้วย’ จากนั้นมา คนที่ไปมาหาสู่แทนที่จะเรียกว่า ‘กระท่อม’กลับเปลี่ยนไปใช้ชื่ออาจารย์ที่สอนบทกวีให้พวกเขาว่า ‘อาจารย์ บะโช’หรือ ‘อาจารย์ต้นกล้วย’ นั่นเอง ซึ่งบะโช เองก็ไม่ปฏิเสธเวลาที่คนเรียกเขาจากชื่อเล่นนี้ เพราะตัวเขาเองก็มีใจรักผูกพันกับต้นกล้วยต้นนั้นอย่างมาก จากนั้นมาชื่อ บะโช 芭蕉ばしょう จึงเป็นไม่ใช่เป็นเพียงชื่อของ กระท่อมที่มีต้นกล้วยเท่านั้น แต่ยังเป็นชื่อเล่นของเขาอีกด้วย […]
Sun set อาทิตย์ ยามอัสดง จากตุ่ม โทะโรนโตะ เพื่อนรัก
ในที่สุด ก็มีเวลามานั่งขีดเขียน ชมภาพ และอ่านเรื่องราวที่เพื่อนๆช่วยกันสร้างสีสันให้ห้องเอหนึ่ง กุ้งเห็นภาพพระอาทิตย์อัสดง หรือพระอาทิตย์ที่กำลังจะร่ำลาจากเราไปที่ตุ่ม ส่งมาให้เพื่อนๆได้ชมกัน จนกว่าจะเจอกันใหม่ในวันพรุ่งนี้ จากการที่กุ้งเกิดในกรุงเทพ ทำงานที่โตเกียว และเรียนที่ อเมริกา ไม่ได้อยู่ในที่ๆจะมีโอกาสได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน เพราะแม้จะอยู่คอนโดในกรุงโตเกียว ตึกสูงอื่นๆก็บังความสวยงามยามเช้าและยามเย็นจนหมดไม่เหลือให้ชื่นชม เมื่อปี 2018 เราบินไปที่ลาว เพราะคนที่บ้านชาวอังกฤษชอบอ่านโคลง กลอน สมัยที่เขาเป็นเด็กๆ ก็คงไม่ต่างจากพวกเราที่อ่านเรื่องของทางตะวันตก ประเทศที่ไกลโพ้น เขาก็เช่นกัน เอเชีย อย่างเช่น พม่า กุ้งก็ต้องเรียนโคลงกลอนญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเก่า จึงมีความชอบเหมือนกัน เราจึงหอบหิ้วเอาหนังสือเล่มหนา […]
เรื่องสั้น โทษใครดี ( 4)
ตอนนั้นข้าพเจ้าอายุคงไม่เกิน 4 – 5 ขวบ ตอนที่ข้าพเจ้าวิ่งกลับมาจากไปเล่นกลางแดดนอกบ้าน กระโดดเข้ามาในทางเดินของบ้านหลังเล็กที่สวยงามน่าอยู่ของเราบนเกาะฮาวายอันแสนมีเสน่ห์ตรึงใจ ตอนนั้นขาพเจ้าเป็นเด็กร่าเริง ฮาวายเป็นเกาะที่เหมาะและดีเยี่ยมในการที่จะใช้ชีวิตและเติบโตที่นั่น ก่อนที่ฮาวายจะกลายเป็นรัฐในปัจจุบัน แสงอาทิตย์สาดส่องมาไม่ขาดสาย อากาศก็อุ่นสบาย จากการที่เราอาศัยอยู่ห่างจากคาบสมุทรแปซิฟิคเพียงไม่กี่นาที ข้าพเจ้าจะไปเล่นน้ำทุกวัน อากาศจะอบอวลด้วยกลิ่นพฤกษชาติและพันธุไม้เมืองร้อนมากมายที่ขึ้นเต็มไปหมดแทบทุกหนแห่ง ชีวิตในตอนนั้นเป็นชีวิตที่สนุกสนานและเพลิดเพลินมาก อดีตที่แสนดีและแสนหวานของข้าพเจ้า วันนั้นเป็นวันหนึ่งในฤดูร้อนวันที่ขาพเจ้าเพิ่งกลับจากการล่าจิ้งจก ไม่มีชีวิตอะไรที่จะสนุกสนานกว่านี้อีกแล้ว วันนี้เอง วันที่ข้าพเจ้าเพิ่งจะกล่าวถึงนี้ ข้าพเจ้าเพิ่งจะโดดเข้าบ้าน หลังจากออกไปเล่นนอกบ้าน และวันนี้เองที่เปลี่ยนชีวิตของข้าพเจ้าอย่างสิ้นเชิง ข้าพเจ้าตกใจมากที่สุดกับภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าตกใจมากที่สุดในชีวิตข้าพเจ้า ตรงทางเดินมืดๆในบ้าน ข้าพเจ้าเห็นพ่อที่แสนประเสริฐและน่าเกรงขามของข้าพเจ้ากำลังนั่งตัวโค้งอยู่บนพื้น เอาหลังพิงผนังบ้านอยู่ ถ้าจะถามว่าข้าพเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของข้าพเจ้านั้น ะคงเป็นเรื่องที่เร้นลับก็ว่าได้ ทั้งนี้เพราะข้าพเจ้าจำพ่อของข้าพเจ้าไม่ได้ ถึงจะไม่มีหลักฐานอะไรที่ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อเช่นนั้นแต่ก็เช่นทุกครั้ง ข้าพเจ้าแน่ใจว่าเขาจะต้องเป็นพ่อของ […]
เรื่องสั้น โทษใครดี (3)
ข้าพเจ้าได้ยินคนส่วนใหญ่พูดว่า “ผมไม่เคยเสียใจภายหลังและผมจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยในชีวิตผม“ ในความเห็นของข้าพเจ้า คำพูดที่ว่านี้เป็นความคิดที่ตื้นเขินและไม่มีหัวคิด คำพูดที่ว่านี้เป็นคำพูดของคนที่หลงเชื่อว่าตัวเขา เหล่านั้นมีความสุขเท่านั้นแหละ บางครั้งข้าพเจ้าคิดว่าถ้าเราให้โอกาส แม้แต่พระ เยซูคงจะขอเลือกทางเดินที่แตกต่างจากที่ว่านี้ สำหรับข้าพเจ้า แน่นอนข้าพเจ้าคงอยากจะเปลี่ยนเหตุการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของข้าพเจัาถ้าทำได้ ในความทรงจำตอนเด็กของข้าพเจ้า เราจะมีรูปภาพต่างๆซึ่งเก็บรูปภาพของคนในครอบครัวและญาติสนิทที่ใกล้ชิด รูปภาพเหล่านี้ช่วยเตือนความทรงจำในอดีตของข้าพเจ้าว่ามีความเป็นมาอย่างไร รูปภาพที่ว่าเหล่านี้มักจะหลบซ่อนอยู่ในตู้เก็บของมืดๆหรือไม่ก็ในห้องเก็บของชื้นๆ หรือไม่ก็ห้องที่ไม่มีใครใช้ ตอนท้ายสุดทางเดินของห้องโถง ภาพถ่ายเหล่านี้ปลุกปีศาจร้ายที่แสนจะน่ากลัวในอดีตให้ขึ้นมาได้ ข้าพเจ้าคงจะเสี่ยงกับการที่ถูกคนหาว่าพูดอะไรบ้าๆก็ได้ว่า ภาพเก่าๆของครอบครัวซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นสีเหลือง และแทบจะดูไม่ได้ เพราะกาลเวลาที่ผ่านไปของคนในครอบครัว ข้าพเจ้าจับภาพความเศร้าและภาพหดหู่บนใบหน้าของเรา ที่จริง ภาพเหล่านั้นก็มีอะไรที่ลึกลับอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน กล่าวคึอภาพที่,ข้าพเจ้าว่าเหล่านั้นเป็นสัญญาณแรกเริ่มที่ส่อให้เห็นความหดหู่ และเศร้าสร้อยใจซึ่งเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดบนรอยยิ้มของพวกเราทุกครั้งที่คนบอกว่า “เอ้า! ยิ้ม” เวลาถ่ายรูป […]
อาลแบร์ กามูว์–เพียงแค่เดินข้างฉัน
สวัสดี ทุกคนที่แวะเข้ามาหามุมสงบ เงียบ หาอะไรที่อยากอ่าน เชิญตามสบาย เวลาส่วนตัวที่แสนหาได้ยากในสังคมปัจจุบัน ดอกมะลิ ที่แสนน่ารัก เดินผ่าน เมื่อยิ้มให้กัน ก็ต้องทักทายด้วยการเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก วันนี้มีโอกาสอ่านคำคมที่ตัวเองเก็บไว้นานปี ตอนสมัยอยู่ที่แคลิฟอร์เนีย ทำให้อดคิดถึง อาลแบร์ กามูว์ ไม่ได้ เพราะดิฉันเห็นคำคมของเขา ที่คนนำมาเขียนใน stained glass panels แผงกระจกสี พออ่านคำคมของ กามูว์ ก็ต้องรีบคว้าและซื้อจาก Flee market ราคา […]
วรรณกรรมญี่ปุ่น–เซเบ กับ น้ำเต้า (3)
จากการที่เซเบทุ่มเททั้งกายและใจทั้งหมดให้กับน้ำเต้าของเขานี่เอง เวลาที่เซเบเดินเข้าไปในเมืองไม่ว่าจะเป็นร้านขายของเก่า ร้านขายผัก ร้านขายเครื่องใช้ในครัว ร้านขายขนม ตลอดจนร้านที่ขายแต่น้ำเต้า ยิ่งถ้าเป็นร้านที่แขวนน้ำเต้าไว้ในร้าน เซเบจะไปยืนจ้องมองน้ำเต้าอยู่หน้าร้านนั้นเซเบอายุเพียงแค่ 12 ขวบและยังเป็นนักเรียนชั้นประถมอยู่ พอเซเบกลับมาจากโรงเรียน เซเบไม่สนใจที่จะไปเล่นหัวกับเด็กอื่น แต่เซเบมักจะออกไปดูน้ำเต้าในเมืองคนเดียว พอตกกลางคืนเซเบจะนั่งขัดสมาธิอยู่ที่มุมๆหนึ่งในห้องนั่งเล่นพร้อมกับนั่งขัดน้ำเต้าไป พอขัดเสร็จ เซเบก็จะเทเหล้าลงไปในน้ำเต้าแล้วห่อน้ำเต้าด้วยผ้าเช็ดมือ เก็บไว้ในถังเหล็ก แล้วนำไปเก็บไว้ใต้โต๊ะโคะตะทซึ *2 จากนั้นเซเบจะเข้านอน พอเซเบตื่นขึ้นมาตอนเช้าวันรุ่งขึ้น เซเบจะรีบไปเปิดถังเหล็กดู เซเบจะเห็นว่ามีน้ำเยิ้มออกมาจากเปลือกน้ำเต้า เซเบจะจ้องดูมันโดยไม่รู้สึกเบื่อจากนั้นเซเบก็จะเอาด้ายร้อยน้ำเต้าอย่างทะนุถนอม แล้วเอาน้ำเต้านั้นไปแขวนไว้ตรงที่มีแดด แล้วจึงจะออกจากบ้านไปโรงเรียน เมืองที่เซเบอาศัยอยู่เป็นเมืองการค้าและเป็นเมืองท่าเรือ […]
วรรณกรรมญี่ปุ่น–เซเบ กับ น้ำเต้า (2)
ขอขอบคุณ ภาพตัวอย่างน้ำเต้า ได้จาก Weblio เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของเด็กคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เซเบกับน้ำเต้า ของเขา หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลทำให้ความสัมพันธ์ของเซเบกับน้ำเต้าของเขา มีอันต้องขาดสะบั้นลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน เซเบก็หาของเล่นใหม่มาทดแทนน้ำเต้าของเขาได้ ของเล่นใหม่ที่ว่านี้ก็คือ การวาดรูปซึ่งตอนนี้เซเบกำลังใจจดใจจ่อกับ การวาดรูปเช่นเดียวกับที่ครั้งหนึ่งเซเบเคยใจจดจ่อกับน้ำเต้าของเขามาก่อน พ่อแม่รู้เรื่องที่บางครั้งเซเบซื้อน้ำเต้ามา เซเบมีน้ำเต้าทั้งลูกพร้อมเปลือก อยู่ประมาณ 10 ลูก ราคาตั้งแต่ 3 ถึง 4 เซน*1 จนถึงน้ำเต้าลูกที่มีราคา ประมาณ 15 เซน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัดหัวจุกน้ำเต้าจนถึงการคว้านเอาเมล็ดข้างในออก ล้วนเป็นงานที่เซเเบ ทำด้วยความชำนิชำนาญ แต่เพียงคนเดียว แม้แต่จุกที่ใช้ปิดน้ำเต้า เซเบก็เป็นคนทำเอง […]
วรรณกรรมญีปุ่่น–หนูเซเบ กับน้ำเต้า (1)
เซเบ กับ น้ำเต้า สวัสดีค่ะ ทุกคนที่แวะเข้ามาโรงเรียนเด็กวัดปรียา ตามที่ตัวเองตั้งใจไว้ก็คือ จะเอาเรื่องแปล และเรื่องที่เขียนตามที่ต่างๆและที่พิมพ์ออกมาขาย ถ้าคนที่แวะเข้ามาอ่านในเว็บนี้ อายุอยู่ในวัย ยี่สิบปี หรือ สามสิบปีขึ้นไป อาจจะไม่เคยอ่านเพราะยังไม่เกิด หรอืเล็กเกินกว่าที่จะอ่านได้ ดิฉัน เริ่มแปล และเริ่มเขียนหนังสือเมื่อเกือบสี่สิบปีที่แล้ว หลังจากออกจากประเทศไทย ไปทำงานที่ญี่ปุ่น หนังสือวรรณกรรม และหนังสือที่ดิฉันเขียน พิมพ์ซ้ำไปหลายคร้้งแล้ว และทางสำนักพิมพ์ทั้งหลาย คงต้องเอาใจตลาด ตามที่รู้ๆกัน […]