Category: นักเขียนนวนิยาย
รักแรกพบ หรือ Love at first sight (2)
เช้าวันนี้ คงเป็นถือว่าน่าจะเป็นเช้า แห่ง ควันหลงที่ได้จาก วัน สุข เมื่อวานนี้ ขอแวะเข้ามาแบ่งปัน ความ สุข ที่อยากจะเขียนคุยกับทุกคน ที่แวะเข้ามาในโรงเรียน เด็กวัดปรียา จากดอกไม้ “รักแรกพบ” นี้ ก่อเกิดเป็นความคิดที่เก็บตก ได้จากการสังเกต และการดูหนัง คลายเครียดทุกวัน เพื่อให้ชีวิตมีความสมดุล มากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องการเอาอะไรที่อ่าน ฟัง หรือดู แล้วสร้าง ความเครียดให้แก่สมองโดยไม่จำเป็น เช่น หนังเมกา ดูแล้วก็คงรกสมอง […]
กวีชื่อดัง มะทซึโอะ บะโช 芭蕉松尾 (1)
สวัสดีค่ะเด็กวัดโรงเรียนปรียาทุกคน ตามคำเรียกร้องจากนักศึกษาที่เรียนวรรณคดีญี่ปุ่น เขียนมาบอกว่า อยากรู้ว่า บะโช มีความเป็นมาอย่างไร ดิฉันเขียนเรื่องนี้ให้นักเรียนที่อยากรู้เรื่องไฮคุและเรื่องบะโชอ่านเมื่อสิบปีมาแล้ว โดยส่วนตัวแล้ว ไม่มีความสามารถในการแต่งไฮคุ แต่ชอบบทกวี และสุภาษิตต่างๆ วันนี้ เลยไปเรียบเรียงใหม่ และเอามาให้ทุกคนในเว็บนี้ ที่อาจมีคนที่มีความสามารถทางด้านการแต่งโคลง กลอน ได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับ ความเป็นมาของชื่อกวีเอกญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆที่มาแบ่งปันกัน ————————– ถ้าพูดถึง 俳句 ไฮคุ ของญี่ปุ่นใครๆ ก็คงต้องยกให้กวีชื่อดัง มะทซึโอะ บะโช 芭蕉松尾 บะโช เกิดใน ปี ค.ศ.1644 แถวอุเอะโนะ ในจังหวัด […]
อนุทินรัก สมัยเฮอังของญี่ปุ่น (ตอนจบ)
ศาสนาพุทธนิกายเทนดะอิ และชินงง กล่าวว่า “ผู้หญิงต้องทนทรมานกับบาปดั้งเดิมและอุปสรรคกีดขวาง 5 ประการ (โงะโซ) ซึงกีดขวางทำให้ผู้หญิงไม่อาจหลุดพ้นจากบ่วงกรรม และไปเกิดใหม่ได้ สิ่งที่ผู้หญิงพอจะมีหวังก็คือ การไปเกิดใหม่เป็นผู้ชายเท่านั้น“ ( “Women in Changing Japan, pp.3,5,7.) ทางด้านศาสนา ผู้หญิงถูกดูถูกกดขี่เห็นว่าเป็นสิ่งที่เลวทรามที่ทำให้ผู้ชายไม่อาจไปเกิดใหม่ แม้ว่าใน พระราชบัญญัติไทโฮ ปี ค.ศ. 70 และพระราชบัญญัติโยโรในปี ค. ศ.718 จะมีการระบุห้ามสามี มีภรรยา (ถูกต้องตามกฏหมาย) ได้เกินหนึ่งคน และผู้หญิงยังได้รับการคุ้มครองทางด้านสิทธิจากกฏหมายในสมัยนั้น […]
อนุทินรัก สมัยเฮอังของญี่ปุ่น (6)
แต่สำหรับผู้เขียน “อนุทิน คะเงะโร”นั้น เธอมีความแตกต่างจากผู้หญิงอื่นอย่างเด่นชัดที่ว่า เธอไม่พอใจ ในสภาพชีวิตและการแต่งงานของเธอ เธอจึงเขียนความรู้สึกที่เธอไม่พอใจต่างๆในอนุทินของเธอ ซึ่งคิดว่าชีวิตของผู้หญิงคนอื่นๆในสมัยนั้น ก็คงไม่ได้แตกต่างจากเธอมากนัก เพียงแต่ว่า ผู้หญิงคนอื่นไม่ได้กล่าวถึงจุดเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมมากมายเท่าเธอ ซึ่งอาจจะเป็นผลจากความรู้สึกส่วนตัวของเธอเองที่ว่า เธอถูกพ่อแม่บีบบังคับให้แต่งงานกับชายที่เธอไม่ชอบ ไม่ได้รัก และทำให้เธอมีบทบาทจำกัดเพียงแค่อยู่แต่ในที่พักของเธอเองเท่านั้น จึงทำให้ความรู้สึกที่เธอเขียนในอนุทินเต็มไปด้วยความเศร้า และเกลียดชังชีวิตของเธอเอง ถ้าจะพูดถึงจุดนี้ ศาสนาพุทธและลัทธิขงจื้อก็มีส่วนทำให้ฐานะของผู้หญิงในสมัยเฮอังด้อยกว่าผู้ชายอย่างมากทีเดียว ความนึกคิดของขงจื้อเกี่ยวกับฐานะที่ต่ำต้อยของผู้หญิงมีบันทึกใน “ชิทซึเคียว”(ข้ออ้าง 7 ประการ) ที่บันทึกไว้ว่า ผู้ชายขอหย่ากับผู้หญิงได้ โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในบทบัญญัติสมัยศตวรรษที่ 8 และมีผลใช้ในพระราชบัญญัติไทโฮและเรื่อยมา ข้ออ้าง 7 […]
อนุทินรัก สมัยเฮอังของญี่ปุ่น (4)
ก่อนที่ดิฉันจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ขนาดชื่อ เรื่อง อนุทิน คะเงะโร ดิฉันยังมืดแปดด้านไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร มีและความหมายอะไร หนังสืออนุทินเล่มนี้ แปลมานานอ่านมาตั้งแต่สมัยไปเรียนที่อเมริกา ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า ‘The Gossamer Years’ แปลโดย Edward Seidensticker จากนั้นก็มีหลายเล่มที่แปลออกมาใหม่ แต่เล่มที่อ่านคือเล่มที่แปลโดย ไซเดนสติกเกอร์ เพราะฉบับภาษาญี่ปุ่น คงไม่มีใครอ่านได้ แม้แต่คนญี่ปุ่นปัจจุบัน เพราะเป็นภาษาเก่าดั้งเดิมในสมัยเฮอัง คะเงะโร นิคคิ คะเงะโร นิคคิ หรือ อนุทิน คะเงะโร […]
อนุทินรัก สมัยเฮอังของญี่ปุ่น (3)
ทั้งที่เป็นอนุทินที่มีผู้อ่านมากมาย และมีชื่อเสียงติดอันดับเป็นวรรณกรรมคลาสิกเรื่องหนึ่ง แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ว่า ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ ผู้เขียนอนุทินนี้ คือใคร เพราะในสมัยเฮอัง เป็นสมัยที่แม้แต่เรื่องของคนธรรมดาสามัญก็ยังไม่มีให้สามัญชนได้อ่านกัน เรื่องที่อ่านๆกันในสมัยนั้น มักจะเป็นเรื่องราวที่เขียนโดยชนชั้นสูง สมัยเฮอังเป็นสมัยที่คนภายนอกไม่อาจรู้ได้ว่า โลกของชนชั้นสูงในสมัยนั้นเป็นอย่างไร สมัยเฮอังเป็นสมัยที่เรารู้จักแต่ละคนจากตำแหน่งที่ได้รับ เพราะสมัยนั้นญี่ปุ่นรับเอาระบบตำแหน่งต่างๆจากมีผลทำให้เรารู้จักแต่ตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคน แทนที่จะรู้จักว่าคนๆนั้นชื่ออะไร และเป็นใคร แม้แต่นางสนมในวังก็ตาม สมัยเฮอังจึงเป็นสมัยแห่งความพิศวง น่าสนใจ น่าศึกษา น่าค้นคว้าอย่างยิ่ง อนุทิน คะเงะโร ผู้เขียนอนุทิน คะเงะโร เป็นที่รู้จักดีในฐานะที่เป็นแม่ของมิทซิทซึนะ อนุทินนี้เป็นเรื่องที่เธอเขียนสะท้อนให้เราเห็นชีวิตสาวในวังในสมัยเฮอังของเธอเอง ว่ามีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร สำหรับคนที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับสมัยเก่าของญี่ปุ่น ในสมัยนั้นคนที่จะขีดเขียนได้ […]
อนุทินรัก สมัยเฮอังของญี่ปุ่น (2)
เมื่อตอนที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่น เมื่อเกือบสีสิบปีที่แล้ว ทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านในเว็บนี้ คงรู้สึกขำว่า เอาเรื่องโบราณอะไรมาเล่า แต่สำหรับดิฉันเอง เรื่องที่จะเขียนเหมือนเรื่องที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่นานมานี้เอง เพราะดิฉันได้รับความประทับใจ และความรู้มากมายจากสิ่งที่ดิฉันไม่ค่อยจะเห็นในบ้านเรา คือ คนญี่ปุ่นเป็ฯชนชาติที่รักธรรมชาติ ชอบเขียนและส่งโปสการ์ดให้แก่กัน ในโอกาสและเทศกาลต่างๆ เวลาจะขึยนคำขอบคุณไม่จำเป็นต้องใช้การ์ดขอบคุณแบบตะวันตก เขาซื้อการ์ดอะไรก็ได้ที่เขาคิดว่า สามารถแสดงความรู้สึกขอบคุณเขาได้ ดิฉันมีโอกาสอาศัยกินอยู่ในบ้านครอบครัวชาวญี่ปุ่น มีโอกาสเห็นคนญี่ปุ่นมองผู้หญิงอย่างไร ตอนที่ดิฉันได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น ตอนนั้น ดิฉันกำลังสร้างฝัน บอกกับตัวเองว่า จากนี้ไปเราจะได้เรียนภาษาญี่ปุ่นในประเทศญี่ปุ่น ดิฉันจะได้เรียนและตักตวงความรู้ให้มากที่สุด คนญี่ปุ่นไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว เจอหน้าดิฉันมักจะถามว่า ‘ยังไม่แต่งงานหรือ’ พอใครถามคำถามนี้ทีไร ดิฉันจะอดรู้สึกตะหงิดๆยังไงชอบกล ‘นี่ฉันจะมาเรียนต่อ […]
เรื่องสั้น โทษใครดี (ตอนจบ)
“เขาไม่ใช่พ่อแก“ แม่แผ็ดเสียงออกมาด้วยความโกรธพร้อมกับปัดมือข้าพเจ้าที่ดึงผ้ากันเปื้อนอยู่ แม่ผลักข้าพเจ้าออกไปให้พ้นตัวแม่ เป็นครั้งแรกในชีวิตข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้าเห็นตาของแม่แปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ความกลัวอย่างสุดขีดที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ข้าพเจ้าต้องวิ่งเร่มาขอความช่วยเหลือจากแม่นั้นแม่กลับกลายเป็น “คนแปลกหน้า“ แม่พูดกับข้าพเจ้าราวกับว่าแม่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าข้าพเจ้าเป็นลูกที่วิ่งมาขอความช่วยเหลือจากแม่ แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จากน้ำเสียงของแม่ข้าพเจ้ารู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าพเจ้าหายใจไม่ออก ช่วงวินาทีต่อมาเป็นช่วงวินาทีที่ข้าพเจ้าสับสนที่สุด แม่พูดออกมาว่า ”เขาไม่ใช่ พ่อแก” แม่ไม่รักลูกอีกแล้วหรือ ลูกทำอะไรผิดหรือแม่ หรือว่าพ่อทำอะไรผิดหรือ แม่พูดอะไรออกมาว่า ”เขาไม่ใช่ พ่อแก” ทำไมแม่ปัดมือข้าพเจ้าแทนที่แม่จะสวมกอดข้าพเจ้าและช่วยปัดเป่าความกลัวที่ข้าพเจ้ามีอยู่ให้หมดไป ทำไมแม่ไม่รีบไปช่วยพ่อ ทำไมแม่ไม่เปลี่ยนอารมณ์เสียของแม่ และทำไมแม่ ไม่ยอมไปช่วยพ่อ ในขณะนั้นข้าพเจ้าจำแม่ไม่ได้ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่า ข้าพเจ้ารู้จักแม่ แม้ว่าข้าพเจ้าจะไม่รู้ว่าข้าพเจ้ามีอารมณ์ความรู้สึกอย่างไร แต่ที่ข้าพเจ้าจำได้อย่างแน่ชัดก็คือ ข้าพเจ้ารู้สึกหน้ามืดและวิงเวียนไปหมด มีอะไรบางอย่างที่ข้าพเจ้าไม่อาจจะอธิบายได้แต่ข้าพเจ้ารู้แต่ว่าภาพที่ข้าพเจ้าเห็นนั้นกลับชัดเจนกว่าแต่ก่อนที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตข้าพเจ้า แม้ว่าฟังแล้วจะรู้สึกแปลกๆก็ตาม […]
เรื่องสั้น โทษใครดี ( 4)
ตอนนั้นข้าพเจ้าอายุคงไม่เกิน 4 – 5 ขวบ ตอนที่ข้าพเจ้าวิ่งกลับมาจากไปเล่นกลางแดดนอกบ้าน กระโดดเข้ามาในทางเดินของบ้านหลังเล็กที่สวยงามน่าอยู่ของเราบนเกาะฮาวายอันแสนมีเสน่ห์ตรึงใจ ตอนนั้นขาพเจ้าเป็นเด็กร่าเริง ฮาวายเป็นเกาะที่เหมาะและดีเยี่ยมในการที่จะใช้ชีวิตและเติบโตที่นั่น ก่อนที่ฮาวายจะกลายเป็นรัฐในปัจจุบัน แสงอาทิตย์สาดส่องมาไม่ขาดสาย อากาศก็อุ่นสบาย จากการที่เราอาศัยอยู่ห่างจากคาบสมุทรแปซิฟิคเพียงไม่กี่นาที ข้าพเจ้าจะไปเล่นน้ำทุกวัน อากาศจะอบอวลด้วยกลิ่นพฤกษชาติและพันธุไม้เมืองร้อนมากมายที่ขึ้นเต็มไปหมดแทบทุกหนแห่ง ชีวิตในตอนนั้นเป็นชีวิตที่สนุกสนานและเพลิดเพลินมาก อดีตที่แสนดีและแสนหวานของข้าพเจ้า วันนั้นเป็นวันหนึ่งในฤดูร้อนวันที่ขาพเจ้าเพิ่งกลับจากการล่าจิ้งจก ไม่มีชีวิตอะไรที่จะสนุกสนานกว่านี้อีกแล้ว วันนี้เอง วันที่ข้าพเจ้าเพิ่งจะกล่าวถึงนี้ ข้าพเจ้าเพิ่งจะโดดเข้าบ้าน หลังจากออกไปเล่นนอกบ้าน และวันนี้เองที่เปลี่ยนชีวิตของข้าพเจ้าอย่างสิ้นเชิง ข้าพเจ้าตกใจมากที่สุดกับภาพที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าตกใจมากที่สุดในชีวิตข้าพเจ้า ตรงทางเดินมืดๆในบ้าน ข้าพเจ้าเห็นพ่อที่แสนประเสริฐและน่าเกรงขามของข้าพเจ้ากำลังนั่งตัวโค้งอยู่บนพื้น เอาหลังพิงผนังบ้านอยู่ ถ้าจะถามว่าข้าพเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายคนนั้นเป็นพ่อของข้าพเจ้านั้น ะคงเป็นเรื่องที่เร้นลับก็ว่าได้ ทั้งนี้เพราะข้าพเจ้าจำพ่อของข้าพเจ้าไม่ได้ ถึงจะไม่มีหลักฐานอะไรที่ทำให้ข้าพเจ้าเชื่อเช่นนั้นแต่ก็เช่นทุกครั้ง ข้าพเจ้าแน่ใจว่าเขาจะต้องเป็นพ่อของ […]
เรื่องสั้น โทษใครดี (3)
ข้าพเจ้าได้ยินคนส่วนใหญ่พูดว่า “ผมไม่เคยเสียใจภายหลังและผมจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยในชีวิตผม“ ในความเห็นของข้าพเจ้า คำพูดที่ว่านี้เป็นความคิดที่ตื้นเขินและไม่มีหัวคิด คำพูดที่ว่านี้เป็นคำพูดของคนที่หลงเชื่อว่าตัวเขา เหล่านั้นมีความสุขเท่านั้นแหละ บางครั้งข้าพเจ้าคิดว่าถ้าเราให้โอกาส แม้แต่พระ เยซูคงจะขอเลือกทางเดินที่แตกต่างจากที่ว่านี้ สำหรับข้าพเจ้า แน่นอนข้าพเจ้าคงอยากจะเปลี่ยนเหตุการณ์อย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของข้าพเจัาถ้าทำได้ ในความทรงจำตอนเด็กของข้าพเจ้า เราจะมีรูปภาพต่างๆซึ่งเก็บรูปภาพของคนในครอบครัวและญาติสนิทที่ใกล้ชิด รูปภาพเหล่านี้ช่วยเตือนความทรงจำในอดีตของข้าพเจ้าว่ามีความเป็นมาอย่างไร รูปภาพที่ว่าเหล่านี้มักจะหลบซ่อนอยู่ในตู้เก็บของมืดๆหรือไม่ก็ในห้องเก็บของชื้นๆ หรือไม่ก็ห้องที่ไม่มีใครใช้ ตอนท้ายสุดทางเดินของห้องโถง ภาพถ่ายเหล่านี้ปลุกปีศาจร้ายที่แสนจะน่ากลัวในอดีตให้ขึ้นมาได้ ข้าพเจ้าคงจะเสี่ยงกับการที่ถูกคนหาว่าพูดอะไรบ้าๆก็ได้ว่า ภาพเก่าๆของครอบครัวซึ่งส่วนใหญ่กลายเป็นสีเหลือง และแทบจะดูไม่ได้ เพราะกาลเวลาที่ผ่านไปของคนในครอบครัว ข้าพเจ้าจับภาพความเศร้าและภาพหดหู่บนใบหน้าของเรา ที่จริง ภาพเหล่านั้นก็มีอะไรที่ลึกลับอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน กล่าวคึอภาพที่,ข้าพเจ้าว่าเหล่านั้นเป็นสัญญาณแรกเริ่มที่ส่อให้เห็นความหดหู่ และเศร้าสร้อยใจซึ่งเป็นหลักฐานที่เห็นได้ชัดบนรอยยิ้มของพวกเราทุกครั้งที่คนบอกว่า “เอ้า! ยิ้ม” เวลาถ่ายรูป […]