ขอถามความในใจ ริคิว (2)

All about Japanese, Books, Japan and culture, novelist, Terakoya, วัฒนธรรม ความเชื่อ, ศาสนา

ในที่สุดจากพลทหารคนโปรดของ โอะดะ ซึ่งก็คือ ฮิเดะโยะชิในสมัยนั้น เขาก็ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ดะอิเมียว ปกครองประเทศญี่ปุ่น ในเรื่องที่จะเขียนให้อ่าน ตัวละคร คือ  ริคิว เขาเป็นพระและเป็นเจ้าพ่อที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในพิธีชงชาญี่ปุ่น ตั้งแต่สมัย โอะดะ จนถึง สมัยฮิเดะโยะชิผู้เป็นใหญ่ปกครองแผ่นดินญี่ปุ่น

แต่จากการที่พระริคิว เป็นพระที่มีชื่อเสียงโด่งดังในพิธีชงชา ยิ่งวันพระริคิว ก็ยิ่งมีชื่อเสียง เป็นที่นับหน้าถือตาของประชาชนแต่ด้วยรสนิยมที่ชอบอะไรฉูดฉาดจากความไม่มีสกุลรุนชาติและความไม่มีสุนทรียภาพของฮิเดะโยะชิ ทำให้พระริคิว และฮิเดะโยะชิ ไม่ลงรอยกัน ยิ่งวันพระริคิว กลับเป็นบุคคลที่ประชาชนเคารพนับถืออย่างมาก พระริคิวมีอิทธิพลต่อความคิดของคนทั่วไปในสมัยนั้นอย่างมาก

ผลที่จากความโด่งดังของพระริคิวและมีชื่อเสียงของพระริคิว ไปบดบังรัศมี ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ของ         ฮิเดะโยะชิ ผู้ซึ่งเป็นดะอิเมียวในขณะนั้น ทำให้ฮิเดะโยะชิไม่พอใจและรู้สึกอิจฉาพระริคิว

เรื่องนี้ เป็นหนังอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นในสมัยนั้น ดิฉันมีโอกาสดูหนังเรื่องนี้บนเครื่องบิน ANAเที่ยวบิน จากญี่ปุ่นไปอเมริกา เมื่อปี 2014 โดยส่วนตัวชอบเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีชงชา ชอบอ่านและดูหนังเกี่ยวกับ พระริคิวมานานแล้ว พอกลับไปอเมริกาก็เลยนำเรื่องที่มีโอกาสได้ดูหนังบนเครื่องบิน เท่าที่พอจะจำเนื้อหาได้ และไปอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระริคิวไปเขียนลงในโรงเรียนเด็กวัดปรียา หรือชื่อโรงเรียนเป็นภาษาญี่ปุ่น寺子屋 ว่า เทะระโคะยะ  ที่ถูกแฮกไปเรียบร้อยแล้ว ข้อมูลหายหมดเกลี้ยง เลยต้องนำมาเขียนเรียบเรียงใหม่ให้อ่านกันอีกครั้ง

ในห้องชงชา

ขอเท้าความฉากที่ฮิเดะโยะชิ รู้ตัวว่ากำลังชะตาจะขาด ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งหรือไปปรับทุกข์กับใคร นอกจากพระริคิว

ฉากที่ฮิเดะโยะชิ เดินผ่านเข้าไปในสวน บ้านของพระริคิว ฮิเดะโยะชิ เหลือบไปเห็นใบไม้บนต้น อะซะงะโอะ (Morning glory) ในสวน ที่ดอก อะซะงะโอะ ไม่มีดอกไม้บานแม้แต่ดอกเดียว ฮิเดะโยะชิเดินเข้าไปในห้องพิธีชงชา ด้วยจิตใจที่หม่นหมองจิตใจไม่อยู่กับร่องกับรอย

พอฮิเดะโยะชิ เข้าไปในห้องชงชา เขารู้สึกประหลาดใจที่เห็นดอกอะซะงะโอะ ดอกหนึ่งปักอยู่ในแจกันไม้ไผ่ แขวนอยู่บนเสาอยู่หน้าโทะโคะโนะมะ

พอฮิเดะโยะชิ นั่งลงเรียบร้อยแล้ว พระริคิวก็เตรียมตัวที่จะเริ่มชงชาให้ฮิเดะโยะชิ ทุกครั้งที่พระ ริคิว จะทำพิธีชงชา เขาจะต้องเอามือล้วงเข้าไปในหน้าอกชุดกิโมะโน เพื่อหยิบกระปุกเล็กใส่ชาสีเขียวเหมือนหยกออกมาเสมอ

ในกระปุกชาเล็กสีเขียวที่เขาพกติดตัวใส่ในหน้าอกชุดกิโมะโนของเขา ในกระปุกชาของเขาจะมีเล็บนิ้วมือของหญิงสาวอยู่ข้างในกระปุกชาเล็กๆของเขาเสมอ  พระริคิวจะหยิบเล็บของหญิงสาวในกระปุกชาออกมาก่อน แล้วจึงค่อยเอาช้อนไม้ไผ่ยาวที่พระริคิวทำเอง ตักผงชาออกจากกระปุกเล็กใส่ชาสีเขียวหยกใบนั้นในขณะที่ พระริคิว กำลังจะชงชาให้ฮิเดะโยะชิ  ฮิเดะโยะชิ รู้ตัวดีว่า การมานั่งดื่มชาที่พระริคิว ชงให้เขากิน ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฮิเดะโยะชิ สังเกตเห็น พระริคิว เอากระปุกเล็กใส่ชาสีเขียวหยกอันหนึ่งออกมาจากข้างในหน้าอกชุดกิโมะโน แทนที่ฮิเดะโยะชิ จะนั่งสำรวม และนั่งนิ่งเงียบในห้องชงชา ฮิเดะโยะชิกลับเอ่ยปากถามพระริคิวว่า “ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม“

พระริคิวพูดตอบสั้นๆว่า “กรุณารอสักครู่”แล้วก็ลุกออกจากห้องพิธีชงชาไป

พระ ริคิวเข้าไปในห้องครัว โดยที่มีภรรยายืนอยู่ข้างพระริคิว แล้วเขาก็เอาช้อนตักข้าวเดือยที่ต้มอยู่ในหม้อขึ้นมาชิมรสดู แล้วก็ตักข้าวเดือยใส่ชาม วางใส่ในถาด แล้วยกเข้าไปในห้องพิธีชงชา

พระริคิว ยกถาดชามข้าวเดือยเข้าไปในห้องพิธีชงชา แล้ววางถาดไว้ข้างหน้าฮิเดะโยะชิ แล้วก็เอามือล้วงเอากระดาษที่อยู่ในหน้าอกชุดกิโมะโนออกมา แล้วก็กางกระดาษที่ห่อบ๊วยเค็มดอง(umeboshi) หนึ่งลูกออกมา วางบนถาด แล้พระวริคิว ก็ลุกออกจากห้องไป

Leave a Reply